คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

I am sad

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

forever love

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

น่ารักจัง

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

ดอยตุงจ้า......

รูปของเราเอง

ไปเที่ยวมาจ๊ะ

วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ศรีสะเกษบ้านเฮา



ประวัติเมืองศรีสะเกษ ก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา
ความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดศรีสะเกษก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฎหลักฐานแน่นอน มีการจดบันทึกไว้พอสังเขป นักประวัติศาสตร์และนักโบราณคดีสันนิษฐานว่า พื้นที่ภาคอีสานในปัจจุบันเคยเป็นที่อยู่ของพวกละว้าและลาว มีแว่นแคว้นอาณาเขตปกครองเรียกว่า "อาณาจักรฟูนัน" ประมาณปี พ.ศ.1100 ขอมเข้ามามีอำนาจแทนและตั้งอาณาจักรเจนละหรืออิศานปุระขึ้น ขอมได้แบ่งการปกครองเป็น 3 ภาคโดยมีศูนย์การปกครองอยู่ที่ละโว้(ลพบุรี) พิมาย(นครราชสีมา)และสกลนคร โบราณสถานโบราณวัตถุของขอมซึ่งกรมศิลปากรสำรวจในจังหวัดศรีสะเกษเมื่อ พ.ศ.2512 จำนวน15 แห่ง ไม่รวมเขาพระวิหารซึ่งเป็นเทวะสถานของขอมที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีปราสาทหินสระกำแพงใหญ่สระกำแพงน้อย ปราสาทลุมพุก ปราสาทบ้านทามจาน(บ้านสมอ)ปราสาทเยอ ปราสาทโดนต็วล (ช่องตาเฒ่า อ.กันทรลักษ์)สันนิษฐานว่าโบราณสถานเหล่านี้มีอายุประมาณ 1,000 ปีเศษมีอยู่ตามท้องที่อำเภอต่างๆ ของจังหวัดศรีสะเกษ ในเอกสารใด เพิ่งจะได้มีการบันทึกหลักฐานในพงศาวดารกล่าวถึงเมืองสุรินทร์ด้วย
พ.ศ.2481 มีพระราชกฤษฎีกา เปลี่ยนชื่อจังหวัดขุขันธ์ เป็นจังหวัดศรีสะเกษ ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน

คำขวัญจังหวัดศรีสะเกษ
"ศรีสะเกษ แดนปราสาทขอม หอมกระเทียมดี มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี"




ดอกไม้ประจำจังหวัด คือดอกลำดวน














ปราสาทขอมที่ลือค่า


ปราสาทสระกำแพงใหญ่



งาน ดอกลำดวน



งานบุญบั้งไฟ


การละเล่นของบ้านเฮา

การแต่งกายของชนเผ่าแต่ละเผ่า

ชาวเขมร(ละออเมียน)

ชาวส่วย(สะน่อมนิ นอ)

ชาวลาว(งามอีหลีเนาะ)


ชาวเยอ (โอ๊ย ละออ)


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น